แชร์

สารจากประธานกรรมการ


สารจากประธานกรรมการ


ในปี 2565 แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายลงจนอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นปีแห่งความท้าทายอีกปีหนึ่งสำหรับการดำเนินธุรกิจในทุกภาคส่วน เริ่มต้นจากสงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่ยุติลง ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อราคาน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้น และนำไปสู่สภาวะเงินเฟ้อในท้ายที่สุด ส่งผลให้หลายประเทศรวมถึงประเทศไทยต้องดำเนินนโยบายการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมทิศทางของเงินเฟ้อที่มีผลต่อสภาวะเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงตลาดการเงินและการลงทุน

สำหรับเศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2565 นั้น ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวร้อยละ 2.6 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 จากปีก่อนหน้า จากการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการลงทุน รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวดีขึ้น และส่งผลไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามการขยายตัวของ GDP ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 3.2 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ และนโยบายควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่กล่าวมาข้างต้น 

ในปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีสำคัญแห่งการพัฒนาของทั้งบริษัท และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินแผนธุรกิจตามปณิธานที่ตั้งไว้ในการเป็นสะพานเชื่อมต่อโลกการเงินปัจจุบัน (Traditional Finance) และโลกการเงินดิจิทัล (Digital Finance) ร่วมไปกับการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น  

สำหรับธุรกิจกลุ่มโลกการเงินปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยในปี 2565 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 1,668.66 จุด ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 11.04 จุด คิดเป็นอัตราร้อยละ 0.67 จากปี 2564 มูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวัน (ไม่รวมบัญชีบริษัทหลักทรัพย์) ลดลงจาก 85.06 พันล้านบาทมาอยู่ที่ 70.66 พันล้านบาทหรือลดลงร้อยละ 16.93 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตามบริษัทหลักทรัพย์กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (“KTX”) ภายใต้ธุรกิจหลักทรัพย์สามารถเพิ่มลำดับส่วนแบ่งตลาดมาอยู่ที่ลำดับ 15 จาก 38 ลำดับ ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน 1 ลำดับ อีกทั้งปี 2565 ถือเป็นปีสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอีกปีหนึ่ง ไม่เพียงแต่การมุ่งมั่นให้บริการด้านซื้อขายหลักทรัพย์ และด้านที่ปรึกษาทางการเงินรวมถึงธุรกิจวาณิชธนกิจ KTX ยังเดินพัฒนาผลิตภัณฑ์ ระบบ และคุณภาพการให้บริการด้วยการเพิ่มช่องทางการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์จาก Offline สู่ Online ผ่าน Application Krungthai NEXT ซึ่งสามารถพร้อมใช้งานอย่างเป็นทางการในไตรมาส 1 ปี 2566 การพัฒนาดังกล่าวถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการทางด้านการเงิน และดำเนินรอยตามแผนพัฒนาธุรกิจในความต้องการที่จะเปลี่ยนผ่านการทำธุรกิจแบบเดิมไปสู่การบริหารความมั่งคั่งทางการเงินให้กับลูกค้าในกลุ่มบริษัทฯ 

สำหรับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด (“XAM”) ภายใต้ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ได้เริ่มประกอบธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 โดยในปี 2565 ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินธุรกิจ XAM ได้จับมือกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอื่นเพื่อขยายผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนให้มีความหลากหลาย ปัจจุบัน XAM มีกองทุนทางเลือกกว่า 748 กองทุน มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการและภายใต้คำแนะนำ ณ สิ้นปี 2565 มีมูลค่ารวมสุทธิ 9,467.91 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่าร้อยละ 31

สำหรับบริษัทบริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง เอ เอ็ม ซี จำกัด (“XAMC”) ภายใต้ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ XAMC ได้เริ่มดำเนินการติดตาม เจรจาและทวงถามหนี้ลูกหนี้ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ในการเจรจาปรับเงื่อนไขการชำระหนี้และพิจารณาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย อีกทั้ง XAMC ยังเดินหน้าประมูลซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพื่อเข้ามาบริหารเพิ่มเติม โดยมุ่งเน้นการขยายความสัมพันธ์กับสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มเติม โดยในปีที่ผ่านมา XAMC ประสบความสำเร็จในการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมาบริหารเพิ่มเติม มูลค่ารวมประมาณ 300 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2565 XAMC มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพภายใต้การบริหารมูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท

ในส่วนของโลกการเงินดิจิทัล บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (“XD”) ดำเนินธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และ ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล ในปีที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งความท้าทายสำหรับ XD เป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์สินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนจากเหตุการณ์การล่มสลายของเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีและแพลตฟอร์มการซื้อขายในต่างประเทศได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการซื้อขายหลักทรัพย์ดิจิทัลของ XD ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประกอบกับภาพรวมของการทำ Tokenization โดยการนำสินทรัพย์มาเป็นทรัพย์สินอ้างอิงเพื่อระดมทุนผ่านการออกโทเคนดิจิตอลในปีที่ผ่านมามีการชะลอตัว เนื่องจากการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับ Investment token ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ได้ภายในปีนี้ ซึ่งมาตราการดังกล่าวจะเป็นสิ่งผลักดันให้มีการระดมทุนและเสนอขายโทเคนในประเทศไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้น XD เชื่อมั่นว่าเราได้ก้าวผ่านวิกฤตสำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดการณ์ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะดีขึ้นจากมูลค่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เริ่มมีความแน่นอนและชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ XD จึงไม่หยุดพัฒนาโมเดลธุรกิจ รวมถึงทรัพยากร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับก้าวสำคัญในการรองรับระบบทางการเงินรูปแบบใหม่ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างโอกาสการลงทุนในอนาคต

ก้าวต่อไปของกลุ่มบริษัทเอ็กซ์สปริงในปี 2566 ยังมุ่งเน้นการพัฒนารากฐานโครงสร้างของกลุ่มองค์กร ทรัพยากร และมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผ่านการผสมผสานผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งในส่วนของ Traditional และ Digital Finance เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และการให้บริการทางการเงิน การลงทุนในรูปแบบใหม่แก่ลูกค้า ผ่านช่องทางการจำหน่ายของกลุ่มบริษัทฯ รวมไปถึงการจับมือกับพันธมิตรเพื่อสร้าง Synergy ผ่านกลุ่มบริษัทย่อยต่างๆ และกลุ่มบริษัทพันธมิตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรวมถึงการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทฯ และมุ่งหวังให้ บริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน

สุดท้ายนี้กระผมเชื่อมั่นว่าในปี 2565 เป็นปีแห่งการเริ่มต้น และพัฒนารากฐานโครงสร้างของกลุ่มองค์กร กระผมในฐานะตัวแทนของคณะกรรมการบริษัทกลุ่มบริษัทเอ็กซ์สปริง ใคร่ขอขอบคุณผู้ถือหุ้น ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจทุกท่านสำหรับความไว้วางใจ ความเชื่อมั่น และการสนับสนุนที่  บริษัทฯ ได้รับด้วยดีมาโดยตลอด และขอขอบคุณคณะผู้บริหารและพนักงานทุกท่าน ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงาน ทำให้บริษัทฯ สามารถจัดการและก้าวข้ามความท้าทายในปีที่ผ่านมา กระผมขอให้ความเชื่อมั่นว่าเราจะดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น และผลักดันกลุ่มบริษัทฯ ให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตและความสำเร็จที่ยั่งยืนต่อไป 

ระเฑียร ศรีมงคล

ประธานกรรมการ