- Elevated Returns บริษัทจัดการสินทรัพย์ชั้นนำ จับมือบริษัท ซิมีโก้ แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (Seamico) และ Tezos ขยายธุรกิจ Asset Tokenisation ในไทยอย่างเป็นทางการ เริ่มที่อสังหาฯ ระดับ High End ตั้งเป้ายอดขาย Token ในไทย 3,000 ล้านบาท
- Seamico เตรียมจับมือกับ Real Estate Developer เพื่อ Tokenise อสังหาริมทรัพย์มูลค่าสูงใจกลางกรุงเทพ พร้อมดำเนินการช่องทางจัดจำหน่ายและเตรียมยื่นใบอนุญาตซื้อขายหลักทรัพย์ดิจิทัลกับ กลต.
- หนุน Tezos ร่วมจับมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาหลักสูตรและการวิจัยด้าน Blockchain เป็นครั้งแรกของประเทศไทย
ในปี 2019 ใครที่ติดตามแวดวง Fintech คงจับตานวัตกรรมที่มีชื่อว่า STO หรือ Stock Tokenisation Offering เป็นพิเศษแน่นอน ซึ่งล่าสุด STO ก็กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยจริงๆ แล้ว โดยบริษัท ซิมีโก้ แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (Seamico) จับมือกับ Elevated Returns บริษัทจัดการสินทรัพย์ชั้นนำด้านอสังหาริมมทรัพย์ของสหรัฐฯ และ Tezos ผู้พัฒนา Blockchain Solution จากสิงคโปร์ ประกาศขยายธุรกิจ STO และ Asset Tokenisation ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
คุณสเตฟาน เดอ เบตส์ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร Elevated Returns หรือ ER กล่าวว่า “Eleveted Returns มีความตั้งใจที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย เรามองเห็นศักยภาพในการเติบโตในประเทศไทย เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่เปิดรับ Digital Transformation โดยภาครัฐก็ให้การสนับสนุนผ่านนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้ ภายใต้การขยายธุรกิจเข้ามาสู่ประเทศไทยของ ER จึงได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท ซิมีโก้ แคปิตอล จำกัด (มหาชน) จำนวนร้อยละ 21 รวมมูลค่า 467.1 ล้านบาท เป็นการเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา"
"ER มีแผนที่จะ Disrupt อสังหาริมทรัพย์ไทยด้วยการเปิดขายหุ้นแบบ STO ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้วในสหรัฐอเมริกา กับการระดมทุนได้ 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านการขาย Token ของโรงแรมเซนต์ รีจิส แอสเพน รีสอร์ต นับเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ดิจิทัลของโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกของโลก ทั้งนี้ ER มีความมั่นใจอย่างยิ่งต่อการจับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับ ZMICO ในการให้องค์ความรู้ธุรกิจ การเข้าถึงกฏเกณฑ์ข้อบังคับ ฐานลูกค้าในประเทศไทยและช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศที่กว้างขวาง ในปีนี้ เราตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท สำหรับการระดมทุนในประเทศไทย โดยเราวางแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือไตรมาสที่ 3 ของปีนี้”
“การขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทยของ ER เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่การทำธุรกรรมทางโทรศัพท์มือถือกำลังเติบโตสูงถึง 74 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดในโลก และอัตราการเติบโตที่สูงเป็นลำดับที่ 2 ในเชิงของจำนวนผู้ถือเงินคริปโตที่ 9.9 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนประชากรผู้ใช้อินเทอร์เนตในไทย ER เล็งเห็นว่า ก.ล.ต.กำลังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยนั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมบล็อกเชนมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก”
ที่มา : techsauce